กมลา…สันติบุรีศรีสุขสมบูรณ์
กมลา…ประชานุกูลสนานผสานกลมเกลียว
กมลา…ตำนานหนึ่งเดียวลี้ลับตรับมนตร์มายาอัศจรรย์
 
     
 
นานนับศตวรรษ ผู้คนเล่าขานเรื่องราวแห่งราชอาณาจักรโบราณแสนมั่งมีรุ่งโรจน์ ที่สาบสูญสิ้นไปพร้อมกับ
"เจ้าชายกมลา" ผู้ถูกลิขิตให้ปกครองนครด้วยทศพิธราชธรรม กลียุคปรากฏ เมื่อประชาราษฎร์ยอมจำนนต่อ
อำนาจมืดแห่งบาปและความโลภละโมปในตัวตน คุณธรรมความดีงามอันเป็นเนื้อแท้แห่งชนชาวไทยมลาย
ไปสิ้น ยังความโกรธเคืองแก่พระทรงเมืองผู้ปกปักอาณาจักรอย่างเหลือสุดประมาณ จึงบันดาลเภทภัยสาป
เจ้าชายกมลา และ "ไอยรา" ช้างคู่ใจกลายเป็นศิลาชั่วนิจนิรันดร ตราบเมื่อประชาชนพร้อมใจรวมพลัง
ร่วมกันกลับตัวกลับใจ เมื่อนั้นมนตราจะคลาไคลไปจากเมือง..."มหัศจรรย์กมลา"เสกเรื่องราว สร้างชีวิตให้
ดำเนินสืบเนื่องไป... มหัศจรรย์แห่งการผจญภัยเริ่มขึ้นเมื่อพสกนิกรแห่งนครกมลาจากทุกสารทิศ
ได้รวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้เจ้าชายศิลากลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง และนำเหล่าชาวเมืองร่วมกัน
เดินทางผ่านแดนลี้ลับแห่งนิมิตมายา เพื่อค้นพบ "ความเมตตา" "ความรัก" "ความกล้าหาญ"
และคุณความดีที่สุกสกาว อันประกอบให้ปวงประชาทุกคนเป็น "ไทย"

 
     
   
 
 
บวงสรวง ~ ความสามัคคี
ณ กลางพงไพรแห่งอาณาจักรกมลา ในราตรีที่แสงจันทราอาบ
ไล้ทั่วไพรสัณฑ์ปรากฎแสงระยับทอประกายจากรูปปั้นเจ้าชาย
กมลาประทับบนหลังช้างไอยรา ตระหง่านกลางซากปรักหักพัง
ของพระราชวังมโหฐานที่ผ่านกาลเวลานับโกฏิปี ให้บัดดลยิน
เสียงกึกก้องแห่งพญาคชสาร อีกทั้งบริวารน้อยใหญ่ ประชาไทย
ยลยินเสียงดังว่าก็จับปี่กลองมโหรีแว่ว ก้องร้องรับกังวานไกล
รวมใจมุ่งหน้ายังรูปศิลา ศรัทธาชนกมลาบวงสรวงสวดมนตรา
ภาวนา ร้องร่ำร่ายรำจังหวะ ระทึก ด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ
ที่มุ่งมั่นแน่วแน่ ด้วยเนื้อแท้แห่งพลัง "ความสามัคคี" ของหมู่ชน
ที่หลอดรวมกัน ปาฏิหารย์คืนร่างปลุกชีพรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์
คืนกำเนิดเปิดชีวิตตำนานโบราณ อีกครั้ง

 
     
 
 
 
หนังใหญ่ ~ วัฏจักรแห่งชีวิต
ทอดประกายไหวทอกระพริบวาบสว่างจากเปลวเพลิง สาดแสง
ระยิบระยับระเริงสลับภาพเงาเงื้อม กระเพื่อมโดดโลด แล่นระบำ
สร้างสีสันปรากฏรูปลักษณ์มหากาพย์แห่งอาณาจักรกมลาพร้อม
ด้วยเจ้าชายกลาผู้ครองธานี...ปฐมบทของ "วัฏจักรแห่งชีวิต"
ที่หมุนเวียนไม่สิ้นสุด...

 
     
 
 
 
กินรี~ ความเมตตา
ลึกล้ำไปกลางไพรพนา เหล่านางกินรีผู้มีกายทิพย์ครึ่งมนุษย์
ครึ่งปักษี มีชีวิตสถืตสง่างามเด่นเป็นตำนาน เริงรื่นชื่น สราญ
ในวาปี เมื่อเจ้าชายกมลาดำเนินไพรพร้อมไอยราเข้าาในพฤกษา
สถานพบพานความงามของประติมากรรมวิจิตรชีวิตน่าพิศวง
จนความปรารถนาแรงกล้าเร่งเร้าให้เจ้าชายร่ายบ่วงบาศมนตร์
จับกินรีได้นางหนึ่ง แต่ภาพความหวั่น ผวา และน้ำตาแห่งความ
โศกเศร้าหวาดกลัวของนาง ยังความเจ็บปวดรวดร้าวสลดใจ
สู่เจ้าชายกมลา ด้วยมโนธรรม และ "ความเมตตา" เจ้าชายจึงตัดสินใจลาปล่อยนางไปสู้ไพรพง...


 
     
 
 
 
นางฟ้า ~ จิตวิญญาณเสรี
เมื่อย่างเข้ายามรัตติกาล ดารดาษดาราประดับนภาเปล่งประกาย ปรากฎภาพเหล่านางอัปสรสวรรค์ผู้งามวิจิตร ผกผัน โผผินบินกลางเวหาหาวราวโลกาไร้เขตแคว้นแดนดล เฉลิมฉลอง "จิตวิญญาณเสรี"… หัวใจของความเป็นไทย...
 
     
 
 
 
โขน ~ ธรรมมะชนะอธรรม
เจ้าชายกมลาอ้าองค์ไซร้ได้เป็นสักขีพยานการปะทะทัพ
กรับกรำตำนานศึกระหว่างธรรมมะกับอธรรม "พระราม"
กรีฑาทัพ ยกรบรับกับพญายักษีมีสิบเศียรสิบกรนาม "ทศกัณฑ์" ผู้มิมีวันมลายสลายชีพ หากแต่ "หนุมาน" ทหารกล้าวานรเอกแห่งองค์รามาเสกกายแฝงกล ฉลาดล้ำล่อลวงเหล่าญาติวงศ์พงศ์ยักษา ด้วยรู้ในอุบายชั่วช้าของ ยักษ์กาลี ด้วยฤทธิ์ขององค์พระรามและหนุมาน ทัพยักษ์แตกพ่ายวอดวายสมดังสัจธรรมกำจาย "ธรรมมะชนะอธรรม"

 
     
 
 
 
สนุก ~ ความสุขสนุกสนาน
แฝดสยามนาม "อิน-จัน" นำขบวนสีสันของเหล่า "ผีตาโขน" ผู้แสนซุกซนเชื้อเชิญทุกคนเข้าร่วมสนุกในมายากล หลากหลาย ฝากของขวัญคือ "ความสนุกสนาน" อันเป็นเอกลักษณ์ที่เปี่ยมล้นจากจิตใจของคนไทย เจ้าชายกมลา ปรากฎกายหมายเข้าร่วมกิจกรรมหฤหรรษ์แต่แฝดอิน-จันพลิกผันกลั่นแกล้งด้วยกลเกมพิสดาร ด้วยหวังมีชัยในปรีชาชาญของเจ้าชาย

 
     
 
 
 
สยามเมืองยิ้ม ~ ความเป็นหนึ่งเดียว
เจ้าชายกมลาดั้นด้นผ่านแว่นแคว้นไกลในราชอาณาจักร
ความมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่ แห่งภูมิทัศน์งามงดของทั้งสี่ถิ่นต่างทิศ
ประจักษ์แจ้งต่อสายตา ผ่านการร่ายรำเริงระบำล้อรับสรรพ
สำเนียงขับร้องไพเราะและเสียงเสนาะจากเครื่องดีดสีตีเป่า
เคาะนานา เจ้าชายตระหนักว่า แม้มีความต่างแห่งสีสันวัฒนธรรม แต่ผู้คนยังคงอยู่ร่วมช่วยเหลือเกื้อกูลกันและ
กัน รวมหลอม สัมพันธ์ผสานผสม "ความเป็นหนึ่งเดียว"...


 
     
 
 
 
ทุ่งรวงทอง ~ รักแท้
เจ้าชายกมลาทรงช้างไอยราผ่านหมู่บ้านเล็กกลางไพร
อันสงบสุข ขณะหมู่ชนร่วมใจเก็บเกี่ยวธัญญาหารพร้อมขับขาน
บทเพลงรักสำราญ พระพรหมบันดาลให้เจ้าชายต้องใจในนารี
นางหนึ่ง บุปผาแห่งความรักก็เบ่งบาน พลังแห่ง "รักแท้"
ที่มีต่อกันแปรเป็นกระแสสายผายผันสู่ใต้พื้นพระธรณี ปลุกรุกเร้าปิศาจจากอเวจีให้ตื่นนิทรา โดยพลันเลื่อนลั่นปฐพี ก่อปะทุวายุร้ายโหมโลมกระหน่ำ ปราการมโหฬารโผล่ผุด หมู่อสูรกระบือร้ายหมายทำลายรักยิ่งใหญ่ จับหญิง งามจอมใจแห่งเจ้าชายกมลาเป็นประกัน หนทางใดเล่าที่จะสามารถเข้าช่วยจอมขวัญได้

 
     
 
 
 
สู้รบ ~ ความกล้าหาญ
เจ้าชายกมลารีบรัดจัดกองกำลังประชาทหารหาญรุดรุกบุก
ประจัญบาน ตีฝ่าสู่หน้าป้อมปราการของจอมมารปิศาจควาย
แม้เหล่าทหารกล้าสามารถรบรากล้าแกร่ง ยังมิอาจต้านแรงล้อม
ของภูติร้ายที่สำแดงกายขยายร่างจากทั่วทุกทิศ จนหมู่ผู้กล้า
เริ่มอ่อนฤทธิ์จวนเจียนพ่าย เจ้าชายกมลารวมกำลังวังชาหยาด
สุดท้าย เปล่งเสียงร้องกึกก้องกระจายเรียกคชา คู่ใจ ฉับพลัน
ทันใด ไอยราปรากฏตัวว่องไวไซร้ดังร่ายมนตร์ แผดเสียงร้อง
แหลมก้องหล้า ฝูงอันธพาลร้ายระสายระส่ำด้วยกลัวเกรงพญา
ช้างสารผู้กำลังเดือดดาลรุนแรง จนกำแพงป้อมยักษ์ทะลัก
พังทลายด้วยสายเสียงร้องกึกก้อง กัมปนาถ ควายปิศาจศิโรราบ
ล่า ถอยรวดเร็ว เจ้าชายกมลาผู้มีชัยได้พบเจ้าหญิงจอมใจอีกครั้ง ด้วย "ความกล้าหาญ" ที่ตราไว้ในสมรภูมิรบ ความรัก
ยิ่งใหญ่บรรจบ หาไร้สิ่งใดเทียบเทียมก็ได้บังเกิดขึ้น

 
     
 
 
 
เด็ก ~ ความหวัง
เมื่อเศษเสี้ยวธุลีแห่งพระเพลิงผลาญมลายหมดสิ้น บรรยากาศ
อบอวลด้วยสันติสุขเริ่มขจรขจาย ความสุขสดใสไร้เดียงสา
จากเสียงร้องรำร่าเริงละเล่นของเด็กน้อยกับช้างแก้วเพื่อนเกลอ
ประหนึ่งการจุดไฟแห่ง "ความหวัง" และอรุณรุ่ง แห่งชีวิตใหม่
ได้เริ่มต้นขึ้น...

 
     
 
 
 
สร้างเมือง ~ ความอุตสาหะ
999 เชือกองครักษ์ช้างสารทรงพลัง มุ่งมั่นบูรณะราชวังและซ่อมสร้างราชอาณาจักรด้วย "ความอุตสาหะ" พสกนิกร
เรียงร้อยร่วมสมโภชแสงรุ่งโรจน์แห่งราชอาณาจักรกมลา รอรับเจ้าชายกมลาผู้ทรงธรรมนำนคร สุขสโมสรเพราะ จอมราชราชาไทย